31 ธ.ค. 2557

เค้กฝอยทอง

เค้กฝอยทอง




เค้กฝอยทองงานนี้ลอกมาจากเค้กสูตรครัวบ้านพิมคร่า

เนื่องจากสูตรนี้ไข่ไก่ใกล้เคียงกับสูตรของที่ใช้มากคือไข่ไก่จ้า


เริ่มด้วยแบ่งการทำเค้กเป็น 3 ส่วนก่อนเลย
-ส่วนที่ 1
-แป้งเค้ก 120 กรัม   (จับร่อนกับผงฟู 2 รอบ)
-ผงฟู 1   1/4  ชช.
-นมผง  1   1/4  ชช.
-น้ำตาลทรายบดละเอียด 80  กรัม  (งานนี้ทำออกมาหวาน เป็นเพราะฝอยทองที่ใส่ๆเยอะ ต้องขอลดเป็น60 กรัม)
-เกลือ 1/2 ชช.
-เตรียมของทุกอย่างครบจับคนผสมทุกๆอย่างคนให้เข้ากันแบบแห้งๆ พักไว้ จัดการส่วนที่ 2 ต่อ


น้ำตาลทรายละเอียด เราเอาไปปั่นๆซะเลย (จะได้ละลายเร็ว)
ส่วนประกอบอื่นๆ นึกขึ้นได้ลืมคร่าลืมถ่ายรูปเป็นหลักฐาน

-ส่วนที่ 2
-น้ำมันพืช 60 กรัม (น้ำมันรำข้าว) หรือน้ำมันพืชบ้านใดใช้แบบไหนก็แบบนั้นจ้า
-ไข่แดง 4 ฟอง (ที่บ้านใช้ เบอร์ 2) ตอกไข่ใส่ชามทำการแยกไข่แดงกับไข่ขาว
-นมข้นจืด 90 กรัม
-กลิ่นวานิลา 1/2 ชช.
- ขั้นตอนนี้เททุกๆอย่างรวมกันตีให้เข้ากันแล้วนำส่วนผสมของขั้นตอนที่ 1 เทลงมาตีให้เข้ากันและฟูรอทำส่วนผสมที่ 3


นำส่วนของเหลวส่วนที่สองตีให้เข้ากันแล้วรวมกับส่วนของแป้งแห้งให้เข้ากันตีแล้วพักไว้ (เวรหล่ะจำได้ว่าถ่ายภาพ ๆทำไมหายกันจังเลย)


-ส่วนที่ 3
-ไข่ขาว 4 ฟอง จากที่แยกไว้
-ครีมออฟทาร์ทา 1/2 ชช.  (ถ้าไม่มีใช้ น้ำมะนาว 1/2 ชช.)
-น้ำตาลทรายบดละเอียด  80 กรัม  (งานนี้ขอใช้ 60 กรัม)
-นำไข่ขาวตีให้ฟูจนฟองเริ่มละเอียด ใส่ครีมออฟทาร์ทาลงไป ตีต่อจนฟองไข่ขาวละเอียดยิบๆ ขาวๆ ค่อยๆ ตวงน้ำตาลใส่ลงไปทีละ 1-2 ชต. จนหมดให้ดูว่าไข่ขาวละเอียดจนขาวตั้งยอดดีแล้วเบาสปีดลงมาเบอร์ ที่เบาที่สุดเพื่อตัดฟองประมาณื 30 วินาที (ตามสูตรที่อ่านมานะคะ)

ไข่อุณหภูมิห้อง


ครีมออฟทาร์ทา หามานาน


พอตีเริ่มฟูฟองยิบๆแล้วใส่ครีมออฟทาร์ทาลงไปเลยจ้า



ตีให้ฟองละเอียดคอยเติมน้ำตาลที่ปั่นละเอียดรอไว้แล้วค่อยๆใส่ไปจนน้ำตาลหมด ตีต่อ



ตีให้ฟองแน่น


แบบตั้งยอดเลยจ้า แล้วค่อยตีสปีดเบาอีก 30 วินาทีพอ


***เริ่มทำต่อโดยนำส่วนผสมของขั้นตอนที่  2 (คือขั้นตอนที่ 1 รวมกับ 2 แล้ว) นำส่วนของขั้นตอนที่ 3 ลงมาใส่ในขั้นตอนของเนื้อแป้ง ตะล่อมให้เร็วและเข้ากัน โดยแบ่งขั้นตอนไข่ขาวทะยอยใส่เป็น 3-4 งวด คนตะล่อมให้เข้ากัน เมื่อเข้ากันดีจะไม่เห็นส่วนของไข่ขาวจะกลายเป็นสีครีมๆของเนื้อเค้กเตรียมเทเข้าเตาได้เลย




ค่อยๆ ใส่ส่วนของไข่ขาวลงไปในตัวแป้งและไข่แดงที่รอไว้ คนผสมจนหมด


ใส่จนครบหมด เตรียมเทลงถาดฝอยทองเลย

ตามสูตร  การอบใช้ไฟ บนล่าง อบอุณหภูมิ 180 องศา c ใช้เวลา 30-40 นาที แล้วแต่ขนาดของถาด วันนี้ใช้ถาดสารพัดกับข้าวคือใช้ทั้งคาวและหวาน ในการอบใช้น้ำหล่อเลี้ยงถาดขนมด้วยไม่งั้นฝอยทองไหม้ไฟอบเป็นแน่แท้



อยากกิน อยากทำ ซื้อมา 1 กก.ซะเลย

-ถาดขนม    -กระดาษไขตัดเท่ากับก้นของพิมพ์ถาด    -ฝอยทอง  300 กรัม  (อุตส่าห์ซื้อมา 1 กก) ได้ทำหลายงวดแน่ๆ 5555+

ตัดกระดาษไขกรุใต้ถาด

นำฝอยทองที่มีจับตัดเส้นให้สั้นบ้างยาวบ้างจัดระเบียบ แล้วใช้ช้อนกดๆไถๆให้เรียบก่อนที่จะเทตัวแป้งเค้กลงไปแล้วเข้าเตาอบ


ขณะเข้าเตาอบเอาน้ำหล่อเลี้ยงไว้ในถาดสีดำที่ใหญ่กว่าเปิดไฟบนล่าง 

ดูแป๊บเดียวสะ เตาที่บ้านผีเข้าผีออก เล่นซะขนมยังไม่สุกหน้าจะไหม้แล้ว เปิดไฟ แค่ 170 นะเนี่ย เลยต้องเฝ้าตลอดคอยสลับไฟไปเรื่อยๆ 


เมื่ออบขนมสุกแล้วจะเป็นเช่นนี้แล นำออกจากเตาอบ เอาพิมพ์ขนม กระแทกพื้นเพื่อให้เนื้อเค้กร่อนจากด้านข้างถาด 



คว่ำพิมพ์ขนมลงในจานแล้วหยิบพิมพ์ออกมาก ขนมจะออกมาแบบนี้เอง (ตื่นเต้นมือสั่นเลย)

26 ธ.ค. 2557

ปลาทับทิมชุบแป้งทอด ซอสมะนาว





เนื้อปลาทับทิม ซื้อมา 4 ตัวจับแล่ 
เพิ่มคำอธิบายภาพ



แป้งทอดกรอบ



ปรุงรสจับหมักด้วยออริกาโน








เนื้อปลาเคล้าด้วยแป้งทอดกรอบบางๆ 





ผสมแป้งทอดกรอบกับน้ำเย็นให้เหนียวข้น ไว้ชุบเนื้อปลาเพื่อทอด




ผงคัสตาร์ท (ถ้าไม่มีใช้แป้งข้าวโพด) แต่ที่ให้ใช้เพราะตามภัตตาคารใช้ในการทำพวกเปรี้ยวหวาน มาก 



จับทอดให้ฟู เหลืองทองกรอบ




น้ำมะนาว ตามชอบ 



เติมน้ำตาลและเกลือปรุงให้รสเป็นแบบน้ำมะนาวที่เราชอบๆกัน 




คนให้ละลายดี 



ตักผงคัสตาร์ทลงไปประมาณ 1 ชต (ถ้าไม่ข้นแล้วเติมก็ทำละลายน้ำก่อนแบบตีแป้งกาว) 



ตั้งไฟ หมั่นคนให้แป้งสุกจะใส แล้วตักใส่ภาชนะเสริฟ 




ตอนนี้ก็พร้อมเสริฟแล้วจ้า (หน้าของน้ำจิ้มโรยด้วยผงออริกาโน)




ปลาทับทิม ซื้อมา 4 ตัว ทำการแล่เนื้อ (กระดูกเก็บไว้ทำประโยชน์) หั่นตามขนาดใจชอบ  หมักด้วยเกลือเล็กน้อย ผงออริกาโนหน่อยดับคาว

หันมาที่ซอสมะนาว มีผงคัสตาร์ทประมาณ 1 ชต.  น้ำมะนาวประมาณ 3 ชต  เกลือ 1/2 ชช  น้ำตาล  3-4 ชต. น้ำเปล่าประมาณ 1-2 ชต. เพื่อเจือจางไม่ให้รสจัดเกินไป   (ก่อนอื่นชงน้ำมะนาวเข้มข้นก่อนแล้วค่อยเติมผงคัสตาร์ท) ตั้งเตาไฟอ่อนๆ หมั่นคนให้ซอสมะนาวสุก กรณีที่น้ำข้นเติมน้ำ น้ำใส (เติมผงคัสตาร์ทผสมน้ำเล็กน้อยค่อยๆเติมดูความข้น)

ตามด้วยการทอด การชุบเนื้อปลาทอดก็เหมือนที่เราคุ้นเคยคือ ชุบแป้ง แห้ง ตามด้วยแป้งข้น แล้วลงกระทะ ทอดให้เหลืองทอง  แล้วนำไปสะเด็ดน้ำมันรอการเสริฟ

24 ธ.ค. 2557

ปีกไก่นิวออลีน

ปีกไก่นิวออลีน

เครื่องเทศที่ต้องมีคือ
ผงกระเทียม 1 ชต. ( ถ้าไม่มี โขลกประมาณ 5-6 กลีบเล็ก)
ผงปาปริก้า  1 ชต. (ถ้าไม่มี ไม่ต้องก็ได้)
น้ำตาล 1 ชต.
ซอสมะเขือเทศ 1 ถ.
ซอสพริก 2-3 ชต.
ใบออริกาโน (ถ้าชอบ ใส่ได้เลย)
น้ำมันหอย ประมาณ 3 ชต.
เกลือ 1 ชช.
พริกไทยป่น 1 ชช.

ปีกไก่ 1 กก. (ล้างสะเด็ดน้ำ)หมักกับเกลือและพริกไทยพักไว้

นำชุดเครื่องเทศทั้งหมดใส่ในชามผสม คนให้เข้ากัน แตะชิมรสชาติ (อย่าให้เค็มนำเพราะไก่ถูกหมักเกลือไว้แล้ว


นำออกจากตู้เย็นให้หายเย็น นำเข้าเตาอบ 180 องศาเซลเซียส เปิดพัดลมร้อนด้วยก็ได้ ตั้งกึ่งกลางเตา อบ 20 นาที 15 นาทีแรกไฟบนล่าง แล้วกลับด้านต่ออีก 5 นาทีเป็นไฟบน (หรือถ้ามีเวลาให้นั่งเฝ้าเตาเพราะเตาที่บ้านน่ารักมาก แล้วแต่อารมณ์ของเจ้แก คงจะแก่มันก็จะเพี้ยนเหมือนกัน)






จัดเครื่องเทศรอเตรียมไว้เลย  



คนให้เข้ากัน ชิมรสชาติ แต่อย่าเค็มนำ เพราะเดี๋ยวไม่อร่อย 



หมักไก่รอจ้า พักไว้ซัก 15 นาทีแล้วค่อยเทลงในชุดเครื่องเทศ 



เมื่อเทลงคลุกให้เข้ากัน 




จับหมักพักไว้ จะข้ามคืนก็ได้ จะใส่ถุงหรือภาชนะไว้ในช่องแข็งเก็บก็ได้ไม่เสียรสชาติ 








สภาพเมื่ออบเสร็จ เรื่องของเรื่องขี้เกียจเอาตะแกรงลงไปด้วยไม่ก็ปูกระดาษฟรอยด์ เสียเวลาเอาถาดแช่น้ำแล้วขัดดีกว่า 



คอหมูย่าง

คอหมูย่าง

คอหมู เป็นส่วนเนื้อที่มีมันหุ้ม ทั้ง 2 ด้าน ในตัวเนื้อหมูจะมีมันแทรกอยู่ตลอดวันนี้ที่ทำ ซื้อคอหมู มา 2 กก. สรุปนั่งตัดแต่งเอามันหมูออก ได้หมูเหลือน้ำหนักประมาณ 1.6 กก.  (มันที่เหลือนำไปเจียวกินกับน้ำปลาพริก สุดแสนจะอร่อยมันปากมากมาย  หรือจะเก็บไว้ใช้ในการทำพวกกุ้งอบวุ้นเส้นที่ต้องการมันหมูในการปูรองก้นหม้อเวลาอบวุ้นเส้นก็ดี)

คอหมูมีหลากหลายสูตร ในแต่ละเจ้ามีรสชาติที่ไม่เหมือนกัน (จากประสบการณ์การกิน) บางเจ้า กลิ่นเครื่องเทศไม่มี มีแค่กลิ่นซอสถั่วเหลือง กับผงชูรส   , บางเจ้ามีกลิ่นรากผักชี กระเทียม พริกไทย  , บางเจ้าก็กลิ่นเหมือนหมูสวรรค์กลิ่นหอมลูกผักชีอ่อนๆ

วันนี้ก็ขอนำเสนอสูตรคอหมูย่าง กลิ่นลูกผักชีบางๆ

กระเทียม พริกไทย รากผักชี ที่โขลก ตามสูตรของแต่ละบ้านที่ถนัดกัน ใช้ประมาณ 1 ชต.
ลูกผักชี กับยี่หร่า อย่างละ 1/2 ชช นำมาโขลกรวมกัน
คอหมูย่าง 1 กก.
เกลือ 1 ชช.
น้ำตาลปี๊บ 2 ชต. ถ้าชอบหวานก็เพิ่มได้อีก
ซอสถั่วเหลือง 1 ชต.
น้ำมันหอย 1-2 ชต.


**** ถ้าดูรูปแล้วอย่างง เพราะในสูตร 1 กก.  แต่ในรูปเราหมัก หมู 1.6 กก


                                           นำเครื่องเทศ โขลกรวมกันทั้งหมดให้ละเอียดมากๆ











นำเครื่องปรุงทั้งหมดละลายผสมคลุกเคล้าให้รวมเข้ากัน 








นำเครื่องเทศและเครื่องปรุงจัดการนวดคลุกเคล้าให้เข้ากันทั้งหมดหมักพักไว้ประมาณ 30 นาทีหรือจะแช่ตู้เย็นค้างคืนก็ได้




สุดยอด ตอนย่างนี้ คนย่างกลายเป็นหมูยักษ์ลมควันเป็นที่เรียบร้อยเลย 




เวลาย่างควันโขมงตลบบ้านเลย คอยเอาขี้เถ้ากลบเมื่อย่างเสร็จก็ตัดแต่งเนื้อ หั่นเสริฟใส่จานกินกับน้ำจิ้มแจ่ว

 เวลาเตรียมพวกคอหมู ซื้อมาต้องมาตัดแต่ง (สำหรับการกินกันเองไม่ใช่การค้า คือแล่เอามันออกมาบ้างไม่ให้หนาเกินไป หมูซื้อมา 2 กิโลกว่า แล่ออกมาได้มันหมูมา 6 ขีดกว่า สรุปเป็นว่าเหลือเนื้อไว้ให้กินแบบมันปากแค่ กิโลกว่าๆเท่านั้นเอง


ค่อยๆตัดแต่งเอามันหมูออก


จากมันหนาๆ


ได้มันเพียบเจียวน้ำมันหมูสบายๆเลย


ตัดออกมาเช้งกระเด๊ะเลย 555+ เตรียมหมักรสชาติสบายๆ


สังขยาฟักทองแบบหั่นชิ้นๆจ้า


สังขยาฟักทอง งานนี้ไม่มาเป็นลูก แต่มาเป็นชิ้นๆเล็กๆ ฟักทองลูกนี้เนื้อไม่มันเลย  TwT  
1.หั่นฟักทองเป็นชิ้นๆ เล็กๆ  งานนี้คนทำชอบกินเป็นขนมนะ ใช้ประมาณ 1 กก    
2 .น้ำตาลปี๊ป  1 ถ. (อัดใส่ถ้วยเต็มๆ)หรือน้อยกว่า  
3. หัวกระทิ ประมาณ 1 1/2- 2 2/2ถ.   (แล้วแต่ชอบมันมากหรือน้อย )
 4. ไข่ไก่ เบอร์ 2 วันนี้ใช้4 ฟอง สำหรับกะทิ 1ถ.  หรือไข่เป็ด3ฟองต่อกะทิ1 ถ. ไข่เป็ดไซด์ใหญ่ 
5.เกลือ1/2 ชช  หรือน้อยกว่า 
 6.ใบเตย (ไว้ขยำตอนผสมไข่ น้ำตาล กะทิ) ถ้าไม่มีไม่เป็นไร
จับไข่ ใบเตย น้ำตาล เกลือ กะทิ ผสมให้เข้ากัน ละลาย  เมื่อละลายครบก็กรองด้วยผ้า ขาวบาง แต่ถ้าไม่มีอะไรแขวนลอยในเนื้อขนมก็ไม่กรอง (งานนี้คนทำไม่กรองคร่า)  เทฟักทองหั่นชิ้นเล็กๆลงไปคนผสมพัก
หันมาตั้งหม้อนึ่ง รอให้น้ำเดือด
ตักขนมใส่ในพิมพ์ที่ต้องการ งานนี้เราใช้ขันโลหะ เทขนมสูงประมาณ 2 นิ้ว เล่นเรานึ่งใช้เวลาประมาณ 20-30 นาทีอ่ะจ้า เมื่อนึ่งขนมออกจากเตาใหม่ๆ อย่าพึ่งตกใจ เพราะนึ่งเสร็จหน้าตึง วางพักหนึ่งมีน้ำในขนม  ปล่อยวงจนเย็น (ขนมจะดูนิ่มๆ แล้วแต่ชอบแบบไหน ทำเสร็จใหม่ๆ เราไม่ชอบกิน) เราจะเอาเข้าตู้เย็น รับรอง หน้าขึ้นไขเป็นสีออกขาวๆเล็กน้อย อร่อยจ้า


                       นำหัวกระทิกับน้ำตาลปี๊บละลายใส่เกลือตาม ปรุงรสให้เข้มข้นกว่าปกตินิดหน่อย ขั้นตอนนี้เราจะชิมแล้วชิมอีก คือมันไม่จั๊กจี้ลิ้นเพราะยังไม่ได้ใส่ไข่ลงไป  เมื่อรสชาติได้ถูกใจใส่ไข่และใบเตยลงไปขยำๆ ให้หอมไม่คาวใส่ฟักทองตามต้องการเลย (ที่บ้านใส่ฟักทองเยอะ)
 



                                       นำฟักทองหั่นเป็นท่อนๆ เล็กๆ ง่ายสะดวกสุกง่ายด้วย



 
 
 
 
 
นำฟักทองไปนึ่ง ดูตามความลึกหนาของขนมถ้าสูงประมาณ 1 นิ้วนึ่งประมาณ 15-20 นาที
 
 

 
เวลาเราตักใส่ถาดที่นึ่ง เราจะชอบใส่ฟักทองลงในภาชนะก่อนแล้วค่อยตักกะทิที่ผสมตามลงไปพอท่วมฟักทองเท่านั้นอ่ะจ้า (ความชอบส่วนตัวนะ ถ้าตามสูตรส่วนใหญ่จะใส่สังขยาเยอะ ด้วยความเป็นวัยรุ่นน้อยก็เลยต้องทำสูตรแบบนี้)